1.ดื่มน้ำให้เพียงพอ
อากาศเย็น หลายคนลดการดื่มน้ำลง ไม่อยากเข้าห้องน้ำบ่อยๆ แต่อย่าลืมว่าน้ำคือส่วนประกอบสำคัญ 70% ของร่างกายเรา ดื่มให้พอเหมาะ ร่างกายจะปรับตัวเอง ดูว่าตัวเองดื่มน้ำเพียงพอไหม ให้ดูจากสีปัสสาวะ ถ้าเข้มเหลืองเกินไป แปลว่า ร่างกายคุณต้องการน้ำ เซลล์ที่ไม่ขาดน้ำก็ทำให้ผิวเราไม่แห้งไม่ตึงโดยธรรมชาติ
2. ฉลาดเลือกครีมบำรุง
ครีมทาผิว ครีมทาหน้า ราคาถูกมากๆ หรือราคาปานกลางมักจะมีส่วนผสมของน้ำมันปิโตรเลียมที่เรารู้จักกันดีว่า Mineral Oil น้ำมันแร่ หน้าที่ของมันคืออุดปิดผิวเราเคลือบด้วยน้ำมัน แต่ไม่ได้ทำให้ผิวเราชุ่มชื้นขี้นมาเลย คุณทาแล้วอาจต้องทาซ้ำ โดยรวมอาจเปลืองกว่าครีมที่ราคาสูงกว่า ควรเลือกครีมบำรุงที่ระบุส่วนผสมสำคัญ เช่น Humectant กรดไฮยารูโลนิค ซึ่งเป็นสารสำคัญในการสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยดึงเอาความชื้นจากอากาศ (ที่มีอยู่น้อยในหน้าหนาว) มาสู่ผิวเรา
3. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น
หน้าหนาวแบบนี้ เครื่องทำน้ำอุ่นมีโปรโมชั่นล่อใจมากมาย ลองถามคนที่เคยใช้แล้วสิ จากนั้นก็จะหายอยาก การอาบน้ำอุ่นให้ความสบายในขณะอาบ แต่ทำลายความชุ่มชื้นของผิวมหาศาล หน้าหนาวอากาศแห้งอยู่แล้ว อาบน้ำอุ่นซ้ำเข้าไปอีกคงได้แห้งกันแบบตกสะเก็ดแน่
เครื่องทำน้ำอุ่น ต้องเดินสายดินให้ปลอดภัย ส่วนเครื่องทำน้ำร้อนก็เป็นตัวกินไฟอย่างร้ายกาจ เอาเงินที่จ่ายไปซื้อครีมบำรุงดี ๆ หรือวิตามินเสริมดูจะคุ้มค่ากว่านะ
4.อย่าขัดผิวบ่อย
หลายคนรู้สึกว่าเนื้อตัวไม่สะอาดเพราะไม่ได้ขัดสีฉวีวรรณ ก็เหมาะในยามที่เนื้อตัวเหนอะหนะ แต่หน้าหนาว อากาศแห้งลง ต้องลดการขัดผิวลง จากเดิมอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เหลือแค่หนึ่งก็ไม่ทำร้ายผิวจนเกินไป ส่วนผู้ที่ไม่รู้จักว่าขัดผิวเป็นอย่างไร ก็ลองปรนนิบัติตัวดูบ้าง
5. เลือกทานอาหารให้พลังงาน
ทำไมคนเมืองหนาวมักมีขนาดมื้ออาหารใหญ่กว่าคนเมืองร้อน ก็เพราะต้องการพลังงานมาก อาหารบางประเทศก็อุดมด้วยเครื่องเทศ พริก ก็เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย หน้าหนาวบ้านเราก็มีอาหารไทยแบบเผ็ดร้อนเหมาะกับฤดูกาล เช่น อาหารหนักเครื่องเทศ ต้มยำกุ้ง ที่มีทั้งตะไคร้ ใบมะกรูด และพริกขี้หนู
6. ครีมกันแดดจำเป็นที่สุด
เลิกคิดว่าครีมกันแดดมีหน้าที่แค่กันไม่ให้หน้าดำ แต่หน้าที่หลักของมันคือ ปกป้องตัวทำให้ผิวเราเหี่ยวย่นก็คือ UVA เป็นตัวอนุมูลอิสระเร่งให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและสร้างริ้วรอยได้อย่างรวดเร็ว หน้าหนาว ท้องฟ้าโปร่ง แดดแรงกว่าปกติ พลาดลืมกันแดด หน้าใส ๆ ที่เคยภูมิใจอาจกลายเป็นเปาบุ้นจิ้นได้ในพริบตา
7. เลือกเสริมวิตามิน
สำหรับคนที่พิถีพิถันกับผิวมากขึ้นไปอีก ความสวยใสจากภายในก็สามารถเลือกเสริมได้ อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินสำหรับผิว เช่น วิตามินอี แต่ถ้าอยากจะเสริมก็สามารถเพิ่มได้ วิตามินอี 200-400 IU ต่อวันหรือถ้าจะให้เกิดประโยชน์ได้หลายขนาน โอเมก้า 3 ก็เป็นตัวครอบจักรวาลเพราะผิวก็ใส หลอดเลือดก็สะอาด สมองก็แจ่มใส ผิวจะชุ่มชื้นขึ้นมาทันที
แต่สำหรับอีฟนิ่ง พริมโรส ไม่แนะนำให้กินอีกแล้วเพราะมีผลงานวิจัยหลัง ๆ มา บอกถึงผลเสียมากกว่าผลดี ทั้งนี้เพราะเรากินอาหารที่อุดมด้วยไขมันพืช สูงกว่าสมัยก่อน โอเมก้า 6 ในพริมโรส ราได้เพียงพอไม่ขาดแล้ว
8. ครีมบำรุงก่อนนอนต้องมี
หน้าหนาวอากาศดี อาจจะไม่ได้เปิดแอร์นอน แต่จะเปิดหรือไม่เปิดก็ตาม อย่าปล่อยให้ผิวถูกทำลายความชุ่มชื้นในเวลาพักผ่อน เลือกครีมบำรุงที่ดีเหมาะกับผิว ที่เข้มข้นพอเหมาะ ดูง่ายๆว่าเหมาะหรือไม่ ตื่นนอนส่องดูหน้า ถ้าหน้ามันก็อาจจะใช้ครีมหนักไป หรือเข้มข้นเกินไป แต่ถ้าตื่นมาหน้าแห้ง ก็แสดงว่าความชุ่มชื้นที่ได้จากครีมไม่พอ ต้องเติม
ลองนำไปปฏิบัติตัวรับหน้าหนาว เป็นฤดูกาลที่ทุกคนเบิกบาน ถ้าปล่อยใบหน้าเป็นขุย ลอก แล้วจะไปโชว์ใครที่ไหนได้ คนใกล้ตัวเขาจะหนี คนห่างตัวก็ไม่มอง แล้วจะโทษใครดี
บ้านเรา ลมหนาวมา พาชื่นใจ แต่อากาศแห้งก็ทำร้ายผิวได้มาก ผิวใสจะกลายเป็นผิวขุย ต้องป้องกันหมดฝน เริ่มต้นฤดูกาลสดใสของบ้านเรา ทั้งท่องเที่ยวธุรกิจการค้า ต่างคึกคักดูดเงินจากกระเป๋าของเรา สภาพเศรษฐกิจแบบนี้ต้องยับยั้งชั่งใจให้มาก แต่ผิวใสก็ต้องไม่ถอยหนี เพียงแต่เลือกซื้อเลือกใช้ให้เหมาะกับเงินในกระเป๋า อากาศที่แห้ง ทำให้ความชุ่มชื้นของผิวลดลง วิธีการปฏิบัติตนให้ผิวใสรับหน้าหนาว.....
เรียบเรียงข้อมูลเพิ่มเติมโดย musa