กินหม้อไฟให้ดีต่อสุขภาพ ควรระวังอะไรบ้าง
ลำดับการรับประทานหม้อไฟหรือสุกี้สไตล์จีนแท้ เริ่มด้วยน้ำผลไม้ครึ่งถ้วยเล็ก
ต่อด้วยผักและตามด้วยเนื้อ
เครื่องดื่มแนะนำ ได้แก่ น้ำผลไม้ต่างๆ น้ำมะพร้าว น้ำเมล็ดแอปปริคอต (น้ำสีขาว) บางแห่งก็เสิร์ฟหม้อไฟพร้อมนมเปรี้ยว สำหรับชาจีน(แบบเย็น)ก็ช่วยแก้เลี่ยนได้ดี ส่วนเหล้าขาวและเหล้าองุ่นเหมาะกับหม้อไฟเนื้อแพะที่สุด บางคนก็ดื่มน้ำอัดลมเพราะเชื่อว่าช่วยย่อยและขับลมดี
แต่มีข้อห้ามว่า อย่าดื่มเบียร์ขณะกินหม้อไฟ
เพราะอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคปวดตามข้อ (โรคเกาต์)
ที่รุนแรงกว่านั้นทำให้เป็นโรคปัสสาวะเป็นพิษ โรคนิ่วในไต
นอกจากเนื้อสัตว์แล้วหม้อไฟเป็นแหล่งวิตามินที่สำคัญที่ได้จากผักสดนานาชนิด เมื่อจะรับประทานจึงนำไปลวกอย่าปล่อยให้ต้มในหม้อนานเกินไป ส่วนเนื้อสัตว์ควรลวกอย่างน้อย 1 นาที
สังสรรค์ข้างเตาในกลุ่มเพื่อนฝูง
การกินหม้อไฟยังไม่ควรรับประทานรวมกับผักหลายชนิดเกินไป เพราะผักบางชนิดกินร่วมกันอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น ผักกาดขาวไม่กินกับเห็ดหูหนู เห็ดหูหนูอาจทำให้เกิดอาการผิวหนังอักเสบ มันฝรั่งซึ่งเป็นพืชที่นิยมใส่ในหม้อไฟ หลังรับประทานแล้วไม่ควรกินกล้วย
เพราะอาจจะทำให้เกิดจุดด่างบนใบหน้า เป็นต้น
เนื้อแพะที่บางคนชอบรับประทานจิ้มกับน้ำส้มจิ๊กโช่หรือซอสเปรี้ยว ถึงแม้จะให้ความรู้สึกอร่อยชุ่มคอและกินได้มาก ความจริงวิธีกินแบบนี้ไม่ถูกต้อง เนื่องจากเนื้อแพะเป็นเนื้อสัตว์ประเภทร้อน ช่วยกระตุ้นเลือดลม ทำให้ร่างกายอบอุ่น แต่น้ำส้มรสเปรี้ยวที่อุดมด้วยวิตามิน โปรตีนและช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางชนิดได้ต้องกินควบคู่กับอาหารประเภทเย็น เช่นเนื้อปู ดังนั้นหากมารับประทานร่วมกับเนื้อแพะนอกจากจะทำให้คุณประโยชน์ของอาหารทั้งสองชนิดลดลงแล้ว ยังอาจเป็นพิษต่อร่างกายบางคนได้ นอกจากนี้ การตุ๋นยาจีนกินกับหม้อไฟก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ต้องควรระมัดระวังอย่างมากเช่นกัน
ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำอีกว่า ไม่ควรดื่มน้ำแกงในหม้อไฟ เพราะถึงแม้น้ำแกงยิ่งต้มนานๆรสชาติจะยิ่งเข้มข้นแต่ก็มีระดับสารเคมีที่มีผลเสียต่อการทำงานของไตมากด้วยเช่นกัน และ หลังรับประทานหม้อไฟอิ่มแล้วควรดื่มชาจีน เพื่อล้างความมันและเพิ่มความชุ่มคอ
เรียบเรียงจาก ซินหัวเน็ต / อีนอร์ทเน็ต